วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 3 วิเคราะห์ข่าวทางการศึกษา


ข่าวเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษา

นักเรียนม.5 ร้องสื่อ ถูกครูพละปาแก้วใส่ ทำหน้าเบี้ยวเสียโฉม




(13 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. นางปราณีย์ จอดสันเทียะ อายุ 48 ปี  ได้นำตัว น้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมใบหน้าที่เสียโฉม ปากเบี้ยวตาซ้ายปิดไม่สนิทเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนประจำจังหวัดปทุมธานี หลังถูกครูพละศึกษาปาถ้วยแก้วเซรามิคใส่ที่ใบหน้าถูกบริเวณคิ้วด้านซ้ายจนประสาทเสีย ใบหน้าเริ่มเบี้ยวและเสียโฉม ตนเองแจ้งความไว้ที่สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา แต่เรื่องกับเงียบสนิท จึงเดินทางมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนก่อนจะเดินทางเข้าพบแพทย์ที่ รพ.รามาธิบดี เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของลูก



น้องทราย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 ตนเองและเพื่อนในห้องกำลังเรียนวิชาพละศึกษา โดยครูที่ก่อเหตุได้ให้ตนเองนั่งเข้าแถวเพื่อรอการเรียนการสอน แต่จุดที่ตนเองนั่งนั้นมีแดดส่องและร้อนมากตนเองจึงยืนขึ้น จากนั้นครูวิชาพละได้แสดงความไม่พอใจและใช้แก้วน้ำเซรามิคขนาดใหญ่ขว้างมาที่ตน แก้วโดนเข้าที่หัวคิ้วข้างซ้ายจนได้รับบาดเจ็บแผลปูดบวม แต่ครูกลับบอกว่า "กูกะจะโยนให้โดนหัวมึงให้แตก" ตนเองกลับบ้านไปก็ไม่ได้บอกผู้ปกครอง

กระทั่งช่วงกลางดึกตนเองอาบน้ำก็พบว่าขณะแปลงฟันอยู่น้ำในปากได้ไหลออกจากทางขอบปากคล้ายปากตนเองปิดไม่สนิทจึงส่องกระจกก็พบว่าปากเบี้ยวไปทางมุมด้านขวาจนผิดรูปร่าง กระทั่งช่วงเวลานอนตนเองหลับตาก็พบว่าตาด้านซ้ายปิดไม่สนิท จึงแจ้งแม่แล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จนเช้าวันที่ 9 สิงหาคม 2559 ได้เดินทางไปแจ้งความที่สภ.โชคชัย หลังจากแจ้งความเสร็จตนได้ขอบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจไม่ยอมให้ตนถ่ายสำเนาโดยอ้างว่า กลัวตนจะเอาไปโพสต์ในโลกโซเชียล อาจจะทำให้เสียรูปคดีได้

นางปราณีย์ มารดา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ลูกสาวตนเองมีใบหน้าปกติรูปร่างหน้าตาดี ตั้งแต่โดนครูใช้แก้วเหวี่ยงใส่ทำให้หน้าตาเสียโฉม หลังเกิดเหตุ ได้พาลูกเข้าไปพบผู้อำนวยการของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนได้เจรจาว่าจะรักษาลูกจนกว่าจะหาย ซึ่งตนรู้สึกดีใจมากที่ทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบ ตนจึงได้พาลูกไปเข้ารับการรักษาที่ รพ.ใน จ.นครราชสีมา หลายแห่งแต่ก็ไม่หายเพราะเส้นประสาทส่วน 7 ได้รับความกระทบกระเทือน จึงมาทำการรักษาที่ รพ.รามาฯ ค่าใช้จ่ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท จึงได้มีการพูดคุยกับ ผอ.โรงเรียนเพื่อให้ดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกครั้ง แต่ทางโรงเรียนกับยอมจ่ายเพียง 80,000 บาท และให้ไปรักษากันเอาเอง ถ้าไม่รับเงินก้อนนี้ก็ให้ไปฟ้องเอา

ตนเองก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นผู้เป็นครูก็ไม่สมควรกระทำ แถมเรื่องคดีความก็เงียบหาย และตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนวันนี้ ทางครูผู้กระทำไม่เคยสนใจ หรือโทรมาพูดคุยขอโทษกับการกระทำดังกล่าวเลยสักครั้ง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครนอกจากให้สื่อมวลชนช่วยเสนอข่าวและให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนและลูกสาวตน

วิเคราะห์ข่าว
จากการที่ดิฉันได้อ่านข่าวนักเรียนม.5 ร้องสื่อ ถูกครูพละปาแก้วใส่ ทำหน้าเบี้ยวเสียโฉม ดิฉันรู้สึกหดหู่กับการกระทำของครูท่านนั้นที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง ไม่รู้จักใช้สติหรือใช้ความคิดให้มากกว่านี้ก่อนที่จะทำสิ่งที่ไม่ดีลงไปเพราะการกระทำนั้นจะย้อนกลับมาเป็นภัยร้ายแก่ตัวเอง เพราะจริงๆแล้วบุคคลที่จะมาเป็นครูต้องเป็นผู้ที่รักและหวังดีกับศิษย์ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และโอบอ้อมอารี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ครูที่ดีจะต้องยอมที่จะอุทิศตนเพื่อศิษย์ทุกเมื่อ เพราะหน้าที่ครูไม่มีวันหยุด ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนถึงแม้จะเป็นช่วงนอกเวลาราชการ ผู้ปกครองของนักเรียนก็ยังเรียกเราว่าครู หลายคนได้เปรียบอาชีพครูไว้ว่าเป็น “แม่พิมพ์ของชาติ” นั่นคือ การที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ทุกคนในประเทศ เพราะครูเปรียบเหมือนพ่อแม่คนที่สองของเยาวชน เด็กได้มาเรียนกับครูตั้งแต่ยังเล็ก หากครูประพฤติตนเช่นไรก็อาจนำไปสู่การเลียนแบบของศิษย์เช่นนั้น ดังนั้น หากในประเทศเต็มไปด้วยครูที่ดีมีความสามารถก็จะนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นได้ แต่การกระทำของครูท่านนี้นั้นก่อให้เกิดความเสื่อมเสียในสังคมของราชการครู ทำให้ผู้ปกครองเกิดความกลัวในการที่จะส่งบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียน ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวของนักเรียนที่ได้รับการกระทำจากครูท่านนี้ด้วย ดิฉันรู้สึกสงสารนักเรียนคนนี้มาก เพราะทางบ้านของนักเรียนก็มีฐานะค่อยข้างลำบาก แต่นักเรียนยังต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ซึ่งต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก และยังเสียโฉมอีกด้วย
จากการที่ดิฉันเป็นนักศึกษาครูจึงคิดว่า การที่จะรับบุคคลเข้ามาเป็นครูนั้นต้องพิจารณาให้รอบด้านทั้งอารมณ์ ความรู้สึก การควบคุมอารมณ์ ความรู้ความสามารถอย่างถ่องแท้ในวิชาที่จะสอน หากเป็นไปได้ไม่ควรรับบุคคลที่ไม่ได้จบวิชาชีพครูโดยตรงเข้ามาเป็นครูในโรงเรียน เพราะบุคคลเหล่านั้นอาจไม่ได้ศึกษาจรรยาบรรณวิชาชีพครูอย่างลึกซึ้ง อาจไม่ได้เรียนวิธีการสอน อาจไม่ได้เรียนจิตวิทยาการเรียนการสอน หรือแม้กระทั่งวิชากฎหมายและการประกันคุณภาพการศึกษา จนนำมาสู่เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นแล้วการลงโทษตามกฎหมายในบางครั้งก็ไม่เข้มงวดเท่าที่ควร บางครั้งอยู่ๆคดีก็เงียบไป เมื่อมีการร้องเรียนให้ดำเนินคดีต่อไปให้ถูกต้องก็จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อต่อสู้คดี ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร ในขณะที่ตกลงกันแล้วว่าทางโรงเรียนจะจ่ายเงินให้ทางผู้เสียหายจำนวน 300,000 บาท แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ทางผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาละรักษาเพียง 80,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรักษาพยาบาลให้กลับมาเป็นเช่นเดิม นักเรียนผู้เสียหายก็อาจเกิดภาวะจิตใจอ่อนแอและเสียขวัญ อาจกลายเป็นเด็กที่มีปมด้อยได้ ดังนั้น ดิฉันในฐานะที่เป็นครูในอนาคต ดิฉันจะเป็นครูที่ประกอบไปด้วยพรหมวิหาร 4 คือ มีความเมตตา คือ มีความเมตตาต่อศิษย์ อยากเห็นศิษย์มีความสุขความเจริญในชีวิตของตน ประสบความสำเร็จในชีวิตตามที่ตนเองต้องการ มีความกรุณา คือ อยากเห็นศิษย์พ้นทุกข์โดยคอยให้คำปรึกษาและคอยให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนอยู่เสมอ มีความมุทิตา คือ มีความยินดีที่เห็นลูกศิษย์ได้ดี คือ ที่หลายคนได้กล่าวไว้ว่า ครูเปรียบเสมือนเรือจ้างที่นำศิษย์ไปส่งให้ถึงยังฝั่งฝัน เมื่อศิษย์ไปถึงฝั่งฝันแล้วนั้นครูก็ย่อมจะมีความสุขความยินดีและกล้าพูดได้ว่าคนนี้เป็นศิษย์ของฉันเอง และมีความอุเบกขา คือ มีความเข้าใจในธรรมชาติของศิษย์ เพราะศิษย์แต่ละคนมาจากครอบครัวที่ต่างกันออกไป ครูต้องเป็นผู้ที่รู้จักศิษย์ดีที่สุดและต้องมีความเข้าใจว่านักเรียนแต่ละช่วงวัยมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป และคุณธรรมอีกข้อหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ดิฉันจะเป็นครูที่มีความอดทน รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี มีความคิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และดิฉันจะไม่ประพฤติตนให้ผิดจรรยาบรรณครู


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น